AI Technology, Digital Marketing, Social

AI Tools for Marketing: การใช้ AI ในการทำการตลาดยุคดิจิทัล

ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การตลาดไม่ได้จำกัดอยู่แค่การวางกลยุทธ์หรือการโฆษณาแบบเดิมอีกต่อไป เพราะ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมวงการการตลาดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เครื่องมือ AI Tools for Marketing ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และสร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้ AI สามารถทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการข้อมูล การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ การโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย หรือแม้แต่การใช้ Chatbot ช่วยสื่อสารกับลูกค้า

Use Case: AI Tools Marketing – การใช้ AI ในการทำการตลาดยุคดิจิทัล

สารบัญหน้า

1. Publer เป็นแพลตฟอร์มการจัดการโซเชียลมีเดียที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวางแผน โพสต์ และวิเคราะห์เนื้อหาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, TikTok, Twitter, LinkedIn, Pinterest, Google Business, YouTube, WordPress และ Telegram ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

คุณสมบัติหลักของ Publer:

  • การจัดตารางโพสต์ (Scheduling): ผู้ใช้สามารถกำหนดเวลาโพสต์ล่วงหน้าบนหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน
  • การทำงานร่วมกัน (Collaboration): รองรับการทำงานเป็นทีม โดยสามารถกำหนดบทบาทและสิทธิ์การเข้าถึงของสมาชิกแต่ละคน
  • การวิเคราะห์ (Analytics): ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโพสต์ เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดได้อย่างเหมาะสม
  • AI Assist: ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการช่วยสร้างและปรับปรุงเนื้อหาโพสต์
  • การจัดการสื่อ (Media Integrations): รองรับการออกแบบและจัดการเนื้อหาภาพและวิดีโอผ่านการเชื่อมต่อกับเครื่องมือต่าง ๆ

กรณีการใช้งาน (Use Cases):

  • ธุรกิจขนาดเล็ก: ใช้ Publer เพื่อจัดการการตลาดบนโซเชียลมีเดียทั้งหมดในที่เดียว
  • นักการตลาดดิจิทัล: วางแผนและวิเคราะห์แคมเปญเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม
  • ทีมคอนเทนต์: ทำงานร่วมกันในการสร้างและจัดตารางโพสต์บนหลายแพลตฟอร์ม

แผนการใช้งานและค่าใช้จ่าย:

Publer มีแผนการใช้งานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ตั้งแต่บุคคลทั่วไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

แผน ราคา (ต่อเดือน) จำนวนบัญชีโซเชียล จำนวนสมาชิกทีม คุณสมบัติเด่น
ฟรี (Free) $0 สูงสุด 3 บัญชี ไม่มี การจัดตารางโพสต์พื้นฐาน, การวิเคราะห์เบื้องต้น
มืออาชีพ (Professional) $12 สูงสุด 10 บัญชี สูงสุด 1 คน คุณสมบัติทั้งหมดในแผนฟรี, การทำงานร่วมกัน, การวิเคราะห์ขั้นสูง, AI Assist
ธุรกิจ (Business) $20 สูงสุด 20 บัญชี สูงสุด 5 คน คุณสมบัติทั้งหมดในแผนมืออาชีพ, การจัดการทีมขั้นสูง, การสนับสนุนลูกค้าเฉพาะทาง
องค์กร (Enterprise) กำหนดเอง ไม่จำกัด ไม่จำกัด คุณสมบัติทั้งหมดในแผนธุรกิจ, การปรับแต่งเฉพาะองค์กร, การสนับสนุนและฝึกอบรมเฉพาะทาง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการอัปเดตราคา สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Publer ได้ที่ : Publer

 

2. SEOmatic เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดสามารถสร้างและจัดการเนื้อหา SEO ในปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคนิค Programmatic SEO และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงการจัดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

คุณสมบัติหลักของ SEOmatic:

  • การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ: SEOmatic ช่วยสร้างหน้าเว็บที่มีเนื้อหาเฉพาะเจาะจงและไม่ซ้ำกัน โดยใช้ AI และเทมเพลตที่กำหนดเอง ทำให้สามารถสร้างหน้าเว็บจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น
  • การผสานรวมกับ CMS หลายประเภท: รองรับการเชื่อมต่อกับระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ยอดนิยม เช่น WordPress, Webflow, Shopify, Notion และอื่น ๆ ทำให้การเผยแพร่เนื้อหาเป็นไปอย่างราบรื่น
  • การจัดการข้อมูล: สามารถอัปโหลดและจัดการชุดข้อมูล (datasets) เพื่อใช้ในการสร้างเนื้อหา ทำให้เนื้อหาที่สร้างขึ้นมีความสอดคล้องและตรงกับความต้องการของผู้ใช้
  • การเผยแพร่อัตโนมัติ: สามารถกำหนดเวลาการเผยแพร่เนื้อหาไปยังเว็บไซต์ของคุณได้อย่างอัตโนมัติ ช่วยให้เนื้อหาของคุณสดใหม่และสอดคล้องกับกลยุทธ์ SEO
  • การวิเคราะห์และรายงาน: ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเนื้อหาที่สร้างขึ้น เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดและ SEO อย่างต่อเนื่อง

กรณีการใช้งาน (Use Cases):

  • การเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์: ใช้ความสามารถด้าน Programmatic SEO และ AI ของ SEOmatic เพื่อสร้างหน้า SEO ในวงกว้าง ดึงดูดผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มากขึ้น
  • การสร้างเนื้อหาที่ไม่ซ้ำใคร: สร้างเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์และปรับให้เหมาะสมสำหรับ SEO โดยใช้เครื่องมือสร้างเนื้อหาอัตโนมัติของ SEOmatic
  • การจัดทำดัชนีอย่างรวดเร็ว: ช่วยให้ Google จัดทำดัชนีหน้า SEO ของคุณได้อย่างรวดเร็ว มักจะภายใน 24 ชั่วโมง
  • การสร้างลูกค้าเป้าหมาย: สร้างแลนดิ้งเพจที่มีคอนเวอร์ชันสูง และใช้เครื่องมือการเลือกเข้าร่วมเพื่อดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย

แผนการใช้งานและค่าใช้จ่าย:

SEOmatic มีแผนการใช้งานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ตั้งแต่เจ้าของเว็บไซต์เฉพาะกลุ่มไปจนถึงเอเจนซี่ดิจิทัล

แผน ราคา (ต่อเดือน) คำที่สร้างโดย AI (ต่อเดือน) จำนวนโปรเจ็กต์ จำนวนหน้า (ต่อโปรเจ็กต์) การเผยแพร่ไปยัง CMS การวิเคราะห์ขั้นสูง การสนับสนุน
พื้นฐาน (Basic) $39 สูงสุด 50,000 คำ ไม่จำกัด สูงสุด 500 หน้า รองรับ รองรับ ปกติ
พรีเมียม (Premium) $99 สูงสุด 150,000 คำ ไม่จำกัด สูงสุด 5,000 หน้า รองรับ รองรับ ระดับพรีเมียม
เอเจนซี่ (Agency) $299 สูงสุด 300,000 คำ ไม่จำกัด ไม่จำกัด รองรับ รองรับ ระดับพรีเมียม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการอัปเดตราคา สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ SEOmatic ได้ที่ SEOMatic

 

3. FeedHive เป็นแพลตฟอร์มการจัดการโซเชียลมีเดียที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง วางแผน จัดตารางเวลา และจัดการเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติหลักของ FeedHive:

  • การจัดตารางโพสต์ (Scheduling): ผู้ใช้สามารถวางแผนและกำหนดเวลาโพสต์เนื้อหาบนหลายแพลตฟอร์มได้พร้อมกัน โดยใช้การลากและวาง (drag and drop) เพื่อความสะดวกในการจัดการ
  • กล่องข้อความโซเชียล (Social Inbox): รวมการตอบกลับ การกดถูกใจ และการมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามจากทุกแพลตฟอร์มไว้ในที่เดียว ทำให้การสื่อสารกับผู้ติดตามเป็นไปอย่างราบรื่น
  • ผู้ช่วยเขียนด้วย AI (AI Writing Assistant): ช่วยสร้างแนวคิด ปรับปรุงเนื้อหา และเขียนโพสต์ที่น่าสนใจมากขึ้น ลดปัญหาการขาดไอเดียในการเขียน
  • การวิเคราะห์ (Analytics): แสดงข้อมูลการมีส่วนร่วมของผู้ติดตามและประสิทธิภาพของโพสต์ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อช่วยในการปรับกลยุทธ์การตลาด
  • การทำงานร่วมกัน (Collaboration): รองรับการทำงานเป็นทีม โดยสามารถเชิญสมาชิกและกำหนดบทบาทเพื่อร่วมกันสร้างและตรวจสอบเนื้อหา

กรณีการใช้งาน (Use Cases):

  • นักการตลาดโซเชียลมีเดีย: ใช้ FeedHive เพื่อวางแผนและจัดการเนื้อหาบนหลายแพลตฟอร์ม พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์
  • ผู้สร้างเนื้อหา (Content Creators): ใช้ผู้ช่วยเขียนด้วย AI เพื่อสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
  • ธุรกิจและเอเจนซี่: ใช้ฟีเจอร์การทำงานร่วมกันเพื่อประสานงานระหว่างทีมและลูกค้าในการจัดการแคมเปญโซเชียลมีเดีย

แผนการใช้งานและค่าใช้จ่าย:

FeedHive มีแผนการใช้งานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ตั้งแต่บุคคลทั่วไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

แผน ราคา (ต่อเดือน) จำนวนบัญชีโซเชียล จำนวนพื้นที่ทำงาน (Workspaces) คุณสมบัติเด่น
Creator $19 4 ไม่ระบุ การจัดตารางโพสต์, การวิเคราะห์, กล่องข้อความโซเชียล
Brand $29 10 5 ผู้ช่วยเขียนด้วย AI, เครื่องมือการทำงานร่วมกัน
Business $59 25 10 การจัดการทีมขั้นสูง, การวิเคราะห์เชิงลึก
Agency $99 100 25 การปรับแต่งแบรนด์ (White Label), การสนับสนุนลูกค้าเฉพาะทาง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการอัปเดตราคา สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ FeedHive ได้ที่ FeedHive

 

4. PageGPT เป็นเครื่องมือที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างหน้าแลนดิ้งเพจที่มีเอกลักษณ์และปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว

คุณสมบัติหลักของ PageGPT:

  • การออกแบบเฉพาะบุคคลด้วย AI: สร้างดีไซน์หน้าแลนดิ้งเพจที่ไม่ซ้ำใคร โดยปรับให้เข้ากับผลิตภัณฑ์และธีมของคุณ
  • การปรับแต่งผ่านภาษาธรรมชาติ: ปรับแก้ดีไซน์ของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านการสนทนากับ AI โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อน
  • การเขียนเนื้อหาด้วย AI: รับเนื้อหาที่น่าสนใจและตรงกับผลิตภัณฑ์ของคุณ เพื่อเพิ่มอัตราการแปลง (conversion rate)
  • การเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษ: เพิ่มเอฟเฟกต์ต่าง ๆ เช่น ข้อความไล่สี, เอฟเฟกต์เมื่อวางเมาส์, และแอนิเมชันการเลื่อน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับหน้าเว็บของคุณ
  • การปรับให้เหมาะสมกับมือถือ: ดีไซน์ทั้งหมดถูกปรับให้เหมาะสมกับการแสดงผลบนอุปกรณ์มือถือ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีของผู้เข้าชม

กรณีการใช้งาน (Use Cases):

  • เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก: สร้างหน้าแลนดิ้งเพจที่ดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้อย่างรวดเร็ว
  • นักการตลาดดิจิทัล: พัฒนาแคมเปญการตลาดด้วยหน้าแลนดิ้งเพจที่ปรับแต่งได้ตามกลุ่มเป้าหมาย
  • นักออกแบบเว็บไซต์: ใช้ AI เพื่อสร้างดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครและประหยัดเวลาในการพัฒนา

แผนการใช้งานและค่าใช้จ่าย:

PageGPT มีแผนการใช้งานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้

แผน ราคา จำนวนหน้าแลนดิ้งเพจ ระยะเวลา
ทดลองใช้ (Trial) $7 1 หน้า 7 วัน
ชำระครั้งเดียว (One-Time Payment) $29 1 หน้า ไม่จำกัด
แพ็กเกจ 5 หน้า (5 Pages Package) $99 5 หน้า ไม่จำกัด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการอัปเดตราคา สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ PageGPT ได้ที่ PageGPT

 

ทบสรุป

หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของ AI ในการสร้างเนื้อหาคือการประมวลผลและทำความเข้าใจข้อมูลจำนวนมากเพื่อผลิตเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและตอบโจทย์ AI ช่วยลดเวลาในการสร้างเนื้อหาและเพิ่มคุณภาพโดยใช้ข้อมูลเชิงลึก เช่น การเขียนบทความ SEO การสร้างเนื้อหาสำหรับโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่การเขียนสคริปต์สำหรับวิดีโอ AI ยังสามารถปรับเปลี่ยนโทนเสียงและสไตล์การเขียนให้เหมาะกับแบรนด์ได้

นอกจากนี้ AI ยังช่วยผู้สร้างเนื้อหาในด้านการแก้ไขและปรับปรุงเนื้อหา เช่น การตรวจสอบไวยากรณ์ การปรับโครงสร้าง และการทำให้เนื้อหามีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งช่วยให้นักเขียนและนักการตลาดประหยัดเวลาและทรัพยากรในการทำงาน ขณะเดียวกันยังสามารถสร้างเนื้อหาแบบอัตโนมัติในหลายภาษา ทำให้ขยายการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายในระดับนานาชาติได้

การใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจและนักการตลาดในโลกที่ข้อมูลและเนื้อหาเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ เครื่องมือ AI เหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการผลิตเนื้อหา คุณสมบัติที่หลากหลายและความสามารถในการปรับตัวทำให้ AI กลายเป็นผู้ช่วยสำคัญในกระบวนการสร้างเนื้อหาในยุคปัจจุบัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *