หนังสือ “ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข” (Good Vibes, Good Life) โดย เว็กซ์ คิงส์ เป็นหนังสือที่เน้นการสร้างพลังบวกในการเปลี่ยนแปลงชีวิต เน้นเรื่องการรักตัวเอง การพัฒนาแนวคิดเชิงบวก และการใช้พลังงานดีเพื่อดึงดูดความสุขและความสำเร็จ โดยใช้กฎแห่งแรงสั่นสะเทือน
Vex King แนะนำว่า พลังงานที่เราปล่อยออกมา มีผลต่อสิ่งที่เราดึงดูดเข้ามาในชีวิต ดังนั้น หากเราสร้างพลังงานบวก เราจะดึงดูดความสุข โอกาสที่ดี และความสำเร็จเข้ามา
หนังสือ Good Vibes, Good Life ของ Vex King มีโครงสร้างที่เรียบง่ายและเน้นการพัฒนาตนเองผ่านการเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรม หนังสือแบ่งออกเป็น 5 ส่วนหลัก ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจและนำแนวคิดไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นขั้นตอน
ส่วนที่ 1: การรักตัวเอง (Self-love) คือกุญแจสำคัญของชีวิตที่ดี
✨ แนวคิดหลัก:
- การรักตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นของพลังงานบวก
- การดูแลตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว
- ต้องกำจัดความคิดเชิงลบที่เกี่ยวกับตัวเอง
✅ วิธีนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน:
- ฝึกพูดกับตัวเองในเชิงบวก (Positive Self-talk)
- แทนที่จะพูดว่า “ฉันไม่ดีพอ” ให้เปลี่ยนเป็น “ฉันกำลังพัฒนาและดีขึ้นทุกวัน”
- ตั้งขอบเขตในการใช้ชีวิต (Set Boundaries)
- ปฏิเสธคนหรือสถานการณ์ที่ทำให้เราหมดพลังงาน เช่น หลีกเลี่ยงคนที่ชอบนินทา
- ดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ
- นอนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกาย
🌟 ตัวอย่าง:
- คุณอาจเริ่มต้นวันด้วยการพูดหน้ากระจกว่า “ฉันมีคุณค่าและคู่ควรกับสิ่งดีๆ”
- หากมีคนขอให้คุณทำงานที่เกินกำลัง คุณสามารถตอบว่า “ขอโทษนะ แต่ฉันต้องดูแลสุขภาพของตัวเองก่อน”
ส่วนที่ 2: พลังงานที่เราส่งออกไป ดึงดูดสิ่งที่เราจะได้รับกลับมา (Law of Attraction)
✨ แนวคิดหลัก:
- พลังงานของคุณเป็นแม่เหล็ก หากคุณคิดบวก คุณจะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามา
- อะไรที่คุณเชื่อ จะเป็นจริง ดังนั้น คิดในสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น
- การกระทำและความคิดต้องสอดคล้องกัน เพื่อดึงดูดพลังบวก
✅ วิธีนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน:
- ฝึกจินตนาการความสำเร็จ (Visualization)
- นึกภาพตัวเองมีความสุขกับสิ่งที่ต้องการ เช่น งานที่ประสบความสำเร็จ
- เขียนเป้าหมายและความฝัน (Manifestation Journal)
- เขียนสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น และทำเหมือนมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว
- ใช้คำยืนยันเชิงบวก (Affirmations)
- พูดว่า “ฉันคู่ควรกับความรักและความมั่งคั่ง” แทนที่จะคิดว่า “ฉันไม่มีทางรวยได้”
🌟 ตัวอย่าง:
- ถ้าคุณต้องการงานใหม่ ให้เขียนว่า “ฉันมีงานที่สมบูรณ์แบบที่ทำให้ฉันมีความสุขและมั่นคง”
- เมื่อตื่นเช้า ลองพูดกับตัวเองว่า “วันนี้เป็นวันที่ดี และฉันจะได้รับโอกาสที่ดี”
ส่วนที่ 3: จัดการกับพลังงานลบและอารมณ์ลบ (Managing Negative Energy)
✨ แนวคิดหลัก:
- อย่าปฏิเสธอารมณ์ลบ แต่ต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจมัน
- หลีกเลี่ยงคนหรือสถานการณ์ที่ทำให้เกิดพลังงานลบ
- การปล่อยวางคือวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาพลังงานบวก
✅ วิธีนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน:
- ฝึกหายใจลึกๆ และทำสมาธิ (Mindfulness & Meditation)
- เมื่อตกอยู่ในความเครียด ให้หยุดหายใจลึกๆ 5 ครั้ง
- ลดการเสพข่าวสารและโซเชียลมีเดียที่ทำให้เครียด
- ปิดการแจ้งเตือนข่าวที่ไม่จำเป็น
- เขียนระบายอารมณ์ลงสมุด (Journaling)
- แทนที่จะเก็บอารมณ์ลบไว้ ให้เขียนลงกระดาษแล้วเผาหรือฉีกทิ้ง
🌟 ตัวอย่าง:
- ถ้าคุณอารมณ์เสียเพราะเพื่อนร่วมงานพูดไม่ดี ลองหายใจเข้าออก 10 วินาที และคิดว่า “ฉันเลือกไม่ให้คำพูดนี้ส่งผลต่อฉัน”
- เมื่อรู้สึกเครียด ให้เปิดเพลงโปรดแล้วเต้นไปกับมัน
ส่วนที่ 4: การพัฒนาความคิดเชิงบวกและนิสัยที่ดี (Developing Positive Habits)
✨ แนวคิดหลัก:
- ความสำเร็จเกิดจากนิสัยเล็กๆ ที่ทำทุกวัน
- การคิดบวกต้องฝึกฝนจนเป็นนิสัย
- สิ่งแวดล้อมมีผลต่อพลังงานของเรา
✅ วิธีนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน:
- เลือกอยู่กับคนที่มีพลังงานบวก
- หลีกเลี่ยงเพื่อนที่ชอบบ่น และอยู่กับคนที่ให้แรงบันดาลใจ
- เริ่มวันใหม่ด้วยกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกดี
- เช่น อ่านหนังสือดีๆ 10 นาที หรือออกกำลังกายเบาๆ
- ให้ความสำคัญกับปัจจุบัน (Living in the Present Moment)
- ฝึกสังเกตสิ่งรอบตัว แทนที่จะกังวลเรื่องอนาคต
🌟 ตัวอย่าง:
- ถ้าคุณอยากเริ่มต้นวันด้วยพลังงานดีๆ ให้ฟังพอดแคสต์สร้างแรงบันดาลใจแทนการเช็คโซเชียลมีเดีย
ส่วนที่ 5: การแสดงความขอบคุณ (Gratitude)
✨ แนวคิดหลัก:
- ความขอบคุณคือพลังงานที่ช่วยดึงดูดสิ่งดีๆ
- คนที่รู้สึกขอบคุณมักมีความสุขมากกว่าคนที่มองหาข้อเสีย
✅ วิธีนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน:
- เขียน “3 สิ่งที่รู้สึกขอบคุณ” ทุกวัน
- เช่น “วันนี้ฉันขอบคุณที่ได้เจอเพื่อนที่ดี”
- แสดงความขอบคุณต่อคนรอบตัว
- เช่น พูดว่า “ขอบคุณที่ช่วยฉันนะ” หรือส่งข้อความขอบคุณ
- ฝึกขอบคุณสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่กำลังจะมา
- เช่น “ฉันขอบคุณสำหรับโอกาสดีๆ ที่กำลังเข้ามา”
🌟 ตัวอย่าง:
- ทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน พูดว่า “ขอบคุณที่วันนี้เป็นอีกวันที่ดี”
9 พฤติกรรมของคนที่มีวิถีชีวิตที่เป็นบวก
(พร้อมเทคนิค วิธีการปรับใช้ และตัวอย่างในชีวิตจริง)
การมีชีวิตที่เต็มไปด้วยพลังบวกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์จาก พฤติกรรมและแนวคิด ที่เราฝึกฝนจนเป็นนิสัย ด้านล่างนี้คือ 9 พฤติกรรมของคนที่ใช้ชีวิตในเชิงบวก พร้อมแนวทางการนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง
1. อยู่กับคนคิดบวก: ซึมซับพลังงานดีๆ จากพวกเขา
แนวคิด:
พลังงานของคนรอบตัวส่งผลต่ออารมณ์และทัศนคติของเรา หากอยู่กับคนคิดบวก เราจะได้รับแรงบันดาลใจและมุมมองที่ดีขึ้น
แนวทางการปรับใช้:
- เลือกคบเพื่อนหรือกลุ่มคนที่สนับสนุนและให้กำลังใจ
- เข้าร่วมชุมชนที่มีเป้าหมายเชิงบวก เช่น กลุ่มพัฒนาตนเอง
- หากต้องอยู่กับคนที่มีพลังลบ ให้โฟกัสที่การป้องกันตนเอง เช่น ไม่รับอารมณ์มาสะสม
ตัวอย่าง:
หากเพื่อนร่วมงานมักบ่นเรื่องงานและชีวิต คุณอาจเลือกพูดคุยกับเพื่อนที่มองปัญหาเป็นโอกาสแทน
2. ยิ้มเมื่อรู้สึกเครียด: เปลี่ยนภาษากายเพื่อเปลี่ยนสถานะภายใน
แนวคิด:
การยิ้มช่วยเปลี่ยนอารมณ์ได้จริง เพราะร่างกายจะส่งสัญญาณไปยังสมองว่าคุณรู้สึกดีขึ้น
แนวทางการปรับใช้:
- ฝึกยิ้มให้ตัวเองหน้ากระจกทุกเช้า
- เมื่อเจอปัญหา ให้ลองยิ้มก่อนหาทางแก้ไข
- ใช้เทคนิค “Fake it till you make it” แม้ยังไม่รู้สึกดี แต่การยิ้มช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
ตัวอย่าง:
เมื่อเกิดความเครียดจากงาน แทนที่จะถอนหายใจ ให้ลองยิ้มและพูดว่า “ฉันผ่านสิ่งนี้ได้แน่นอน”
3. ใช้เวลากับธรรมชาติ: พักผ่อนและถอยห่างจากสิ่งที่ทำให้เครียด
แนวคิด:
ธรรมชาติมีพลังในการเยียวยา ลดความเครียด และช่วยให้จิตใจสงบขึ้น
แนวทางการปรับใช้:
- ออกไปเดินเล่นในสวนหรือพื้นที่สีเขียวบ้าง
- ใช้เวลาอยู่กับแสงแดดหรือลมหายใจจากธรรมชาติ
- หากอยู่ในเมืองใหญ่ ลองปลูกต้นไม้เล็กๆ หรือฟังเสียงธรรมชาติผ่านแอปพลิเคชัน
ตัวอย่าง:
หากคุณรู้สึกอารมณ์ไม่ดี ลองออกไปเดินเล่นใต้ต้นไม้ 10 นาที และสังเกตว่าคุณรู้สึกดีขึ้นแค่ไหน
4. ค้นหาแรงบันดาลใจ: มีแรงขับเคลื่อนและรู้สึกดีต่อสิ่งที่ทำ
แนวคิด:
แรงบันดาลใจช่วยให้เรารู้สึกมีความหมายในชีวิตและเต็มไปด้วยพลังงานบวก
แนวทางการปรับใช้:
- อ่านหนังสือหรือฟังพอดแคสต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ
- ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
- ตั้งเป้าหมายในชีวิตและลงมือทำ
ตัวอย่าง:
หากคุณรู้สึกหมดไฟ ลองฟังเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จ หรือดูวิดีโอสร้างแรงบันดาลใจ
5. อยู่ห่างจากคำนินทาและดราม่า: เพราะมันเต็มไปด้วยพลังงานลบ
แนวคิด:
ข่าวลือและดราม่ามักทำให้เราเสียพลังงานไปโดยไม่จำเป็น
แนวทางการปรับใช้:
- เลือกหลีกเลี่ยงวงสนทนาที่เน้นนินทาหรือดราม่า
- หากมีคนมาพูดเรื่องแย่ๆ ให้เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
- ใช้เวลากับกิจกรรมที่มีประโยชน์แทน
ตัวอย่าง:
หากกลุ่มเพื่อนเริ่มพูดถึงเรื่องดราม่าในโซเชียล ลองเปลี่ยนหัวข้อเป็นเรื่องการพัฒนาตนเองหรือไลฟ์สไตล์สุขภาพ
6. ใส่ใจกับอาหารการกิน: เลือกอาหารที่มีคลื่นความถี่สูง
แนวคิด:
อาหารส่งผลต่อพลังงานและอารมณ์ของเราโดยตรง
แนวทางการปรับใช้:
- รับประทานอาหารสดใหม่ เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีประโยชน์
- หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและน้ำตาลมากเกินไป
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาสมดุลพลังงานในร่างกาย
ตัวอย่าง:
ลองเริ่มวันด้วยน้ำอุ่นผสมมะนาวแทนกาแฟ เพื่อเพิ่มพลังงานบวกให้กับร่างกาย
7. แสดงความขอบคุณ: การรู้สึกขอบคุณเต็มไปด้วยพลังที่เปี่ยมล้น
แนวคิด:
การขอบคุณช่วยเปลี่ยนมุมมองของเราและเพิ่มพลังงานบวกให้กับชีวิต
แนวทางการปรับใช้:
- เขียนบันทึกขอบคุณสิ่งดีๆ ในแต่ละวัน
- ขอบคุณคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
- ฝึกพูด “ขอบคุณ” แม้ในสถานการณ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ
ตัวอย่าง:
ก่อนนอน ลองจด 3 สิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณในวันนี้ เช่น “ขอบคุณที่วันนี้มีโอกาสหัวเราะกับเพื่อน”
8. ศึกษาอารมณ์ในทุกวัน: ไม่เมินเฉยต่ออารมณ์เชิงลบ แต่เปลี่ยนเป็นบวกแทน
แนวคิด:
การเข้าใจอารมณ์ช่วยให้เราจัดการกับมันได้ดีขึ้น
แนวทางการปรับใช้:
- ฝึกสังเกตอารมณ์ของตัวเองโดยไม่ตัดสิน
- ใช้สมุดบันทึกอารมณ์เพื่อวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนความคิด
- ฝึกหายใจลึกๆ และปล่อยวางสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
ตัวอย่าง:
หากคุณรู้สึกหงุดหงิด ให้ลองถามตัวเองว่า “ฉันรู้สึกแบบนี้เพราะอะไร?” และหาทางจัดการแทนที่จะกดเก็บไว้
9. ให้ความสำคัญกับปัจจุบัน: ใช้ชีวิตอยู่กับเวลาปัจจุบัน
แนวคิด:
การโฟกัสที่ปัจจุบันช่วยให้เรามีความสุขและลดความกังวล
แนวทางการปรับใช้:
- ฝึก Mindfulness เช่น สังเกตการหายใจของตัวเอง
- ลดการใช้มือถือและเพลิดเพลินกับช่วงเวลาจริง
- ทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึก “อยู่กับปัจจุบัน” เช่น งานศิลปะหรือออกกำลังกาย
ตัวอย่าง:
หากคุณทานอาหาร ลองตั้งใจรับรู้รสชาติ แทนที่จะเลื่อนมือถือไปพร้อมกัน
แนวคิดสำคัญในหนังสือ
นอกจากที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ หนังสือยังพูดถึง หลักการสำคัญเพิ่มเติม ได้แก่
✅ “Everything is Energy” (ทุกสิ่งคือพลังงาน)
- ทุกคนและทุกสิ่งมีพลังงานในตัวเอง การอยู่ใกล้พลังงานลบจะทำให้เรารู้สึกแย่
- เทคนิค: หลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมหรือคนที่ทำให้รู้สึกหมดพลัง และเลือกกิจกรรมที่เติมพลังให้ตัวเอง
✅ “The Universe Responds to Your Frequency” (จักรวาลตอบสนองต่อคลื่นพลังของคุณ)
- ถ้าคุณปล่อยพลังงานลบ คุณจะดึงดูดสถานการณ์ลบ แต่ถ้าคุณรักษาความคิดบวก คุณจะได้รับสิ่งดีๆ
- เทคนิค: ใช้ “Affirmations” หรือคำพูดย้ำเตือนบวก เช่น “ฉันคู่ควรกับความสุข”
✅ “Self-love is not selfish” (การรักตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว)
- การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่รวมถึงจิตใจด้วย
- เทคนิค: ฝึก Self-care routines เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อน และพูดดีกับตัวเอง
✅ “Let go of what no longer serves you” (ปล่อยสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ออกไป)
- อย่ายึดติดกับอดีต ความเจ็บปวด หรือความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
- เทคนิค: ฝึกปล่อยวาง โดยการเขียนจดหมายถึงสิ่งที่ต้องการปล่อยออก แล้วฉีกทิ้ง
🎯 สรุป
หนังสือ Good Vibes, Good Life เป็นแนวทางที่ช่วยให้คุณ รักตัวเอง ปล่อยพลังบวก และสร้างนิสัยที่ดีเพื่อดึงดูดชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านเทคนิคง่ายๆ เช่น การฝึกคิดบวก การแสดงความขอบคุณ การจัดการอารมณ์ และการตั้งเป้าหมาย
✅ ลองเลือกแนวคิดที่คุณชอบ แล้วเริ่มนำไปใช้กับชีวิตประจำวัน แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า! 😊✨