Food

สูตรขนมตาลกลิ่นหอมของวันวานและเคล็ดลับทำให้นุ่มฟู น่าทานทุกคำ

ทุกเช้าวันเสาร์ตอนเด็ก ๆ ฉันจะได้กลิ่นหอมหวานลอยมาจากครัว
กลิ่นนั้นไม่ใช่กลิ่นขนมเค้ก ไม่ใช่ช็อกโกแลต
แต่เป็นกลิ่นของ “ขนมตาล” ที่ยายทำในลังถึงใบใหญ่

แค่กลิ่นก็รู้แล้วว่า… “วันนี้จะอร่อย”

ยายบอกเสมอว่า ขนมตาลที่ดีต้อง “นุ่ม ฟู หอม หวานพอดี”
และความหอมที่แท้จริงไม่ได้มาจากน้ำตาล
แต่มาจาก “ใจ” ที่ใส่ลงไปขณะนวดแป้ง

วันนี้ ฉันเลยอยากแบ่งสูตรขนมตาลที่ทำแล้วนึกถึงยายเสมอ
และบอกเล่าความลับเล็ก ๆ ที่ทำให้ขนมตาลนุ่มฟู ไม่แฉะ ไม่เปรี้ยว

🧁 ส่วนผสม (สำหรับประมาณ 20 ถ้วยตะไล)

  • เนื้อลูกตาลสุก 1 ถ้วย (ควรเลือกผลที่หอม ไม่แก่เกิน)

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย

  • น้ำตาลทรายขาว ¾ ถ้วย

  • กะทิสด ¾ ถ้วย (แยกหัวกับหางได้จะดีมาก)

  • ยีสต์ผงแห้ง ½ ช้อนชา

  • มะพร้าวทึนทึกขูดฝอยสำหรับโรยหน้า

  • ถ้วยตะไล + ซึ้งนึ่ง


🥣 วิธีทำขนมตาล Step-by-Step

✅ ขั้นตอนที่ 1: เตรียมส่วนผสม

  1. ละลายน้ำตาลในกะทิเล็กน้อยให้อุ่น (ไม่ต้องให้ร้อนเดือด)

  2. ปั่นเนื้อลูกตาลให้เนียนในเครื่องปั่น หรือบดผ่านกระชอน

  3. ผสมแป้งข้าวเจ้า + เนื้อลูกตาล + ยีสต์ เข้าด้วยกัน


✅ ขั้นตอนที่ 2: หมักแป้ง

  1. เทส่วนผสมกะทิและน้ำตาลลงไป คนจนเข้ากัน

  2. พักไว้ให้แป้งขึ้นประมาณ 4 ชั่วโมง (ควรใช้ภาชนะปิดฝา วางในที่อุ่น)

🧠 เคล็ดลับ: ถ้าอากาศเย็น ให้หาผ้าห่มปิดหรือวางใกล้เตาอุ่นเล็กน้อย แป้งจะขึ้นดี


✅ ขั้นตอนที่ 3: นึ่งขนม

  1. เตรียมซึ้ง ใส่น้ำให้เดือดจัด

  2. ตักแป้งใส่ถ้วยตะไลประมาณ ¾ ถ้วย ไม่เต็ม เพราะขนมจะฟู

  3. นึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 15 นาที โดย ไม่เปิดฝาระหว่างนึ่ง


✅ ขั้นตอนที่ 4: เสิร์ฟ

  1. เมื่อขนมสุก ยกออกมาพักให้เย็น

  2. โรยมะพร้าวขูดด้านบนเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟ


🍯 เคล็ดลับให้ขนมตาล “นุ่ม ฟู หอม” ไม่พลาด

  • ใช้ลูกตาลที่ “พอแก่” ไม่งอม

  • ยีสต์ใหม่ ไม่หมดอายุ

  • ต้องนึ่งด้วยไฟแรงตลอด และห้ามเปิดฝาระหว่างนึ่งเด็ดขาด

  • พักแป้งให้ขึ้นฟูจริง ๆ ก่อนนึ่ง


🧡 สรุป

ขนมตาลไม่ใช่แค่ขนมหวาน
แต่มันคือ “ความทรงจำในบ้านไทย”
ที่ส่งต่อได้จากรุ่นสู่รุ่น…
พร้อมกลิ่นหอมที่ทำให้ใครหลายคน ยิ้มได้โดยไม่ต้องพูดอะไร

#ขนมตาล #สูตรขนมไทย #ขนมหอมบ้านไทย #กลิ่นจากวันเก่า #ThaiDessertRecipe #ขนมแม่ทำ #ลังถึงในความทรงจำ #ขนมพื้นบ้าน #อบอุ่นผ่านของหวาน #ทำกินก็ได้ทำขายก็ดี

Related Posts