สรุปประเด็นหนังสือThe Woke Salaryman มนุษย์เงินเดือนต้องรอด-ต่อ03

🧠 5. การพัฒนาตนเอง

💡 แนวคิดสำคัญ:

“การพัฒนาตัวเอง = การลงทุนที่ผลตอบแทนสูงที่สุดในระยะยาว”

• ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ทักษะใหม่เกิดทุกวัน งานเก่าหายไปทุกปี

• ใครที่ “หยุดนิ่ง” เท่ากับ “ถอยหลัง” ในโลกที่วิ่งไปข้างหน้า

• หนังสือจึงแนะนำให้มนุษย์เงินเดือนมองการพัฒนาตนเองเหมือนการ “วางแผนชีวิต”

📌 ประเด็นหลักในหัวข้อนี้:

✅ 1. โลกเปลี่ยนเร็ว ทักษะต้องเปลี่ยนตาม

• ทักษะเดิมอาจไม่พอในอนาคต

• เช่น งานที่เคยใช้ Excel → วันนี้ใช้ AI / Power BI

• ภาษาอังกฤษเคยเป็น “ทางเลือก” → วันนี้คือ “พื้นฐาน”

การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) คือคำตอบ

✅ 2. เรียนรู้ไม่ต้องรอ “คอร์สราคาแพง”

• ใช้ YouTube, คอร์สฟรี, หนังสือ, เรียนจากคนรอบข้าง

• ใช้เวลาว่างวันละ 30 นาที – 1 ชม. สะสมทักษะเรื่อย ๆ

ทักษะที่สำคัญ เช่น:

• Digital Skill (AI, Excel, Data)

• Soft Skill (การสื่อสาร, การจัดการอารมณ์)

• การวางแผนการเงินเบื้องต้น

✅ 3. การพัฒนาตัวเองช่วยเพิ่ม “โอกาส” และ “อำนาจต่อรอง”

• คนที่มีทักษะ = มีตัวเลือกมากขึ้นในชีวิต

• เจรจาเรื่องเงินเดือนได้ดีขึ้น

• ไม่ต้องอยู่ในที่แย่ ๆ เพราะ “ไม่มีทางเลือก”

🛠️ วิธีนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง:

✅ สร้าง “แผนพัฒนาตัวเองรายเดือน”

✅ ใช้แนวคิด “อัปเดตตัวเองเหมือนแอป”

เหมือนมือถือที่ต้องอัปเดตเวอร์ชัน
เราก็ต้องอัปเดตตัวเองอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ “ทันโลก – ทันโอกาส – ทันตัวเอง”

🎯 ตัวอย่างการนำไปใช้ให้ชีวิตดีขึ้น:

👨‍💼 “อั๋น” ทำงานฝ่ายบัญชี รู้สึกว่างานซ้ำเดิม ไม่โต

• เขาเริ่มเรียน Excel ขั้นสูงทาง YouTube วันละ 20 นาที

• จากนั้นฝึกใช้งานจริงจนทำ Dashboard สรุปยอดขายให้ทีมได้

• ผู้จัดการประทับใจ → ได้โปรโมตเป็นหัวหน้าทีม

• วันนี้เขาใช้ทักษะใหม่ช่วยทีมประหยัดเวลา และมีผลงานโดดเด่นมากขึ้น

✅ สรุป:

คุณอาจเปลี่ยนชีวิตไม่ได้ใน 1 วัน
แต่ถ้าคุณพัฒนาตัวเองวันละนิด คุณจะ “ไม่ใช่คนเดิม” ภายใน 1 ปี

📌 การพัฒนาตัวเอง = การสร้าง “โอกาสล่วงหน้า” ให้ชีวิต
โดยไม่ต้องรอใครเปิดประตูให้

🧭 6. การตระหนักรู้ (Awareness)

💡 แนวคิดสำคัญ:

คนจำนวนมาก “พยายาม” อย่างหนัก แต่ “ไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังพายเรืออยู่ผิดแม่น้ำ”

เพราะขาดสิ่งที่เรียกว่า “การตระหนักรู้” — การรู้เท่าทันทั้งตัวเอง และสภาพแวดล้อมรอบตัว

เมื่อเรามี Awareness มากขึ้น เราจะ…

• รู้ว่าควรพยายามในจุดไหน

• รู้ว่าต้องยอมรับอะไร

• และรู้ว่าเมื่อไหร่ “ควรเปลี่ยน” ไม่ใช่ฝืน

📌 ประเด็นหลักในหัวข้อนี้:

✅ 1. รู้เท่าทัน ระบบที่เราอยู่ในนั้น

• ระบบการศึกษา → สอนให้แข่งขันแต่ไม่สอนเรื่องเงิน

• ระบบการทำงาน → สร้างความมั่นคงให้บริษัท ไม่ใช่พนักงานเสมอไป

• ระบบทุนนิยม → ทำให้เราอยากได้มากขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยให้เรามีความสุขขึ้นเสมอไป

เมื่อรู้ทันระบบ เราจะไม่ตกเป็น “เหยื่อของเกม” โดยไม่รู้ตัว

✅ 2. รู้เท่าทัน ความคิดและพฤติกรรมของตัวเอง

• เรากำลังทำงานเพราะ “อยาก” หรือเพราะ “ควร”?

• เรากำลังซื้อของชิ้นนี้เพราะ “จำเป็น” หรือแค่ “อยากเท่”?

• เราโทษดวง โทษระบบ หรือเรายังไม่ลงมือทำจริง ๆ?

Awareness ทำให้เรากล้าถามคำถามที่ไม่สบายใจ แต่จำเป็นต้องรู้

✅ 3. รู้ว่า “เราอยู่จุดไหน” เพื่อวางแผนให้แม่นยำ

ถ้าเรารู้ว่าตัวเองไม่มี Privilege → เราจะไม่เสียเวลากับการเปรียบเทียบ
ถ้าเรารู้ว่าเราไม่มีทักษะ → เราจะเริ่มเรียนรู้อย่างตั้งใจ
ถ้าเรารู้ว่าเราเหนื่อย → เราจะกล้า “พัก” ก่อน “พัง”

🛠️ วิธีนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง:

✅ 1. ตั้งเวลาสะท้อนตัวเองทุกสัปดาห์ (Self-Check)

ถามตัวเองวันอาทิตย์สั้น ๆ:

• ฉันรู้สึกอย่างไรกับงานที่ทำอยู่?

• ฉันใช้จ่ายเงินแบบรู้ตัวไหม?

• ฉันกำลังพัฒนาตัวเองอยู่หรือเปล่า?

🎯 ใช้คำตอบเหล่านี้วางแผนสัปดาห์ถัดไปได้แม่นขึ้น

✅ 2. เขียน “สิ่งที่ฉันรู้ทัน” ลงในสมุด

🎯 ตัวอย่างการนำไปใช้ให้ชีวิตดีขึ้น:

👩‍💻 “เจน” ทำงานหนักเกินไปเพราะกลัวเจ้านายมองไม่ดี

• เธอเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองเหนื่อยเกิน และกำลังทำงานเพราะ “กลัว” ไม่ใช่เพราะ “รัก”

• หลังมี Awareness → เธอกำหนดเวลาทำงานใหม่

• เริ่มพูดกับหัวหน้าเรื่อง workload อย่างตรงไปตรงมา

• มีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น สุขภาพดีขึ้น และทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

✅ สรุป:

“การตระหนักรู้” ไม่ใช่แค่เรื่องปรัชญา
แต่มันคือ “อาวุธ” สำหรับมนุษย์เงินเดือน
ที่ต้องเอาตัวรอดในโลกที่เปลี่ยนไว คาดเดาไม่ได้ และมักไม่แฟร์

📌 ยิ่งรู้ทันมากเท่าไหร่ = ยิ่งใช้พลังชีวิตได้คุ้มค่าและคมชัดมากขึ้นเท่านั้น