Uncategorized

สรุปประเด็นหนังสือเคล็ดลับรวยเงียบฉบับคนญี่ปุ่น-ข้อ7

7. การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (Tanamoshi – 頼母子)

Tanamoshi (頼母子) เป็นธรรมเนียมการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนหนึ่งในญี่ปุ่น เพื่อ ออมเงินร่วมกันและช่วยเหลือทางการเงินซึ่งกันและกัน โดยมีลักษณะคล้ายกับการเล่นแชร์ในประเทศไทย แต่มีรายละเอียดและบริบททางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ

รายละเอียดเนื้อหาของ Tanamoshi:

  • การรวมกลุ่ม: สมาชิกจะรวมตัวกันด้วยความสมัครใจ อาจเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน ญาติ หรือคนรู้จักที่ไว้ใจกัน
  • การกำหนดข้อตกลง: สมาชิกจะตกลงร่วมกันเกี่ยวกับ:
    • จำนวนเงินที่แต่ละคนจะนำมาสมทบในแต่ละงวด: อาจเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ หรือตามแต่จะตกลง
    • ระยะเวลาของการรวมกลุ่ม: อาจเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของกลุ่ม
    • วิธีการหมุนเวียนเงินก้อน: โดยทั่วไป จะมีการตกลงล่วงหน้าว่าใครจะเป็นผู้ได้รับเงินก้อนในแต่ละงวด อาจใช้วิธีจับฉลาก เสนอความจำเป็น หรือเรียงตามลำดับการเข้าร่วม
    • เงื่อนไขอื่นๆ: เช่น ค่าธรรมเนียม (หากมี) หรือข้อกำหนดเมื่อมีสมาชิกไม่สามารถสมทบเงินได้ตามกำหนด
  • การสมทบเงิน: สมาชิกแต่ละคนจะนำเงินจำนวนที่ตกลงมารวมกันในแต่ละงวด
  • การรับเงินก้อน: ในแต่ละงวด จะมีสมาชิกคนหนึ่งได้รับเงินก้อนที่รวบรวมได้ตามข้อตกลง
  • ความไว้วางใจและความรับผิดชอบ: หัวใจสำคัญของ Tanamoshi คือความไว้วางใจและความรับผิดชอบของสมาชิกทุกคนในการปฏิบัติตามข้อตกลง

ลักษณะสำคัญของ Tanamoshi:

  • เป็นการออมเงินแบบมีเป้าหมาย: สมาชิกมักจะมีเป้าหมายในการรับเงินก้อน เช่น นำไปใช้จ่ายในเรื่องจำเป็น ลงทุน หรือแก้ไขปัญหาทางการเงินเฉพาะหน้า
  • เป็นการช่วยเหลือกันในชุมชน: เป็นรูปแบบหนึ่งของการสนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกลุ่มคนใกล้ชิด
  • อาศัยความไว้วางใจเป็นหลัก: เนื่องจากไม่มีสัญญาผูกมัดทางกฎหมาย ความสำเร็จของ Tanamoshi ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบของสมาชิก
  • อาจมีลักษณะไม่เป็นทางการ: การรวมกลุ่ม Tanamoshi มักเกิดขึ้นโดยการพูดคุยและตกลงกันเอง ไม่ได้มีพิธีรีตองหรือเอกสารทางกฎหมายที่ซับซ้อน
  • อาจมีวัตถุประสงค์ทางสังคม: นอกเหนือจากการช่วยเหลือทางการเงินแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตได้อย่างไร:

แม้ว่า Tanamoshi จะเป็นธรรมเนียมที่มีบริบททางวัฒนธรรมญี่ปุ่น แต่หลักการของการช่วยเหลือซึ่งกันและกันและการออมร่วมกันสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้:

  1. สร้างกลุ่มออมทรัพย์กับคนใกล้ชิด: ชักชวนเพื่อนสนิท ญาติ หรือเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้ มารวมกลุ่มออมเงินร่วมกัน โดยกำหนดเป้าหมายและจำนวนเงินที่ต้องการออมร่วมกัน
  2. กำหนดข้อตกลงที่ชัดเจน: พูดคุยและตกลงกันในรายละเอียด เช่น จำนวนเงินที่ออมต่อเดือน ใครจะเป็นผู้ดูแลเงิน วิธีการแบ่งเงินเมื่อถึงเป้าหมาย หรือวิธีการช่วยเหลือกันหากมีใครเดือดร้อน
  3. เน้นความโปร่งใสและความไว้วางใจ: สร้างบรรยากาศที่เปิดเผยและซื่อสัตย์ในการจัดการเงินออมร่วมกัน ทุกคนควรรับรู้ถึงสถานะทางการเงินของกลุ่ม
  4. กำหนดเป้าหมายร่วมกัน: การมีเป้าหมายร่วมกัน เช่น การเก็บเงินเพื่อจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ การช่วยเหลือสมาชิกที่ต้องการเงินทุนเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ หรือการบริจาคเพื่อการกุศล จะช่วยสร้างแรงจูงใจและความสามัคคี
  5. ช่วยเหลือกันในรูปแบบอื่นๆ นอกเหนือจากการเงิน: นอกจากการออมเงินแล้ว การช่วยเหลือซึ่งกันและกันยังสามารถทำได้ในรูปแบบอื่นๆ เช่น การแบ่งปันความรู้ ทักษะ การให้กำลังใจ หรือการช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ที่แต่ละคนถนัด
  6. สร้างเครือข่ายสนับสนุน: การมีกลุ่มคนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนทั้งในด้านการเงินและด้านอื่นๆ จะช่วยให้เรามีความมั่นคงและสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้น
  7. ให้ความสำคัญกับการตอบแทน: เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น ควรแสดงความขอบคุณและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือกลับเมื่อมีโอกาส

ตัวอย่างในการนำมาปรับใช้ให้ชีวิตดีขึ้น:

  • กลุ่มเพื่อนร่วมงาน: รวมกลุ่มกัน 5 คน แต่ละคนออมเงินเดือนละ 1,000 บาท ทุกสิ้นปีจะนำเงินทั้งหมดมาจัดกิจกรรมเลี้ยงสังสรรค์ หรือนำไปบริจาคเพื่อการกุศล
  • กลุ่มแม่บ้านในหมู่บ้าน: รวมกลุ่มกันออมเงินเดือนละ 500 บาท ใครมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน สามารถขอยืมเงินจากกองกลางได้ โดยมีข้อตกลงเรื่องการผ่อนชำระคืน
  • กลุ่มเพื่อนสนิท: รวมกลุ่มกันเพื่อสนับสนุนธุรกิจเล็กๆ ของสมาชิกคนใดคนหนึ่ง โดยอาจร่วมกันลงขันเป็นเงินทุน หรือช่วยกันโปรโมทสินค้าและบริการ
  • ครอบครัวใหญ่: สมาชิกในครอบครัวตกลงที่จะแบ่งปันค่าใช้จ่ายบางอย่างร่วมกัน เช่น ค่าดูแลผู้สูงอายุ หรือค่าเล่าเรียนของหลาน
  • ชุมชนออนไลน์: สมาชิกในกลุ่มที่มีความสนใจเดียวกัน อาจสร้างกลุ่มเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการหางาน แบ่งปันข้อมูล หรือให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ

แม้ว่ารูปแบบของ Tanamoshi โดยตรงอาจไม่แพร่หลายในสังคมไทย แต่หลักการของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การรวมกลุ่มเพื่อเป้าหมายร่วมกัน และการสร้างความไว้วางใจในกลุ่มคนใกล้ชิด ยังคงเป็นแนวคิดที่มีคุณค่าและสามารถนำมาปรับใช้เพื่อสร้างความมั่นคงและความสุขในชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการ “รวยเงียบ” ที่เน้นการพึ่งพาตนเองและสร้างความเข้มแข็งจากภายในชุมชน

Related Posts