AI Technology, Automation, Data, Digital Marketing, Martech

AI in Automation ใช้ AI ในการทำงานอัตโนมัติ

AI in Automation เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญที่กำลังเปลี่ยนแปลงการทำงานในหลายอุตสาหกรรม ด้วยความสามารถของ AI ในการประมวลผลและตัดสินใจได้อย่างอิสระ ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ เพิ่มความเร็วในการทำงาน และช่วยลดต้นทุนในระยะยาว AI ในการทำงานอัตโนมัติครอบคลุมตั้งแต่งานซ้ำซ้อนในองค์กร ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนในโรงงานอุตสาหกรรม

Use Case: AI Tools Automation – ใช้ AI ในการทำงานอัตโนมัติ

สารบัญหน้า

1. Zapier
แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ เพื่อสร้างเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดการทำงานระหว่างแอปต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด เช่น การส่งข้อมูลจากฟอร์มไปยังสเปรดชีตหรือการแจ้งเตือนผ่านอีเมล

คุณสมบัติ:

  • เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ
  • ช่วยสร้าง Workflow Automation หรือ “Zap” ระหว่างแอป เช่น การย้ายข้อมูลจาก Google Forms ไปยัง Google Sheets
  • รองรับแอปพลิเคชันกว่า 5,000 รายการ

Use Case:

  • การแจ้งเตือนทางอีเมลเมื่อมีการกรอกแบบฟอร์มใหม่
  • การย้ายข้อมูลลูกค้าใหม่จาก CRM ไปยังสเปรดชีต
  • การติดตามอีเมลอัตโนมัติเมื่อมีคำสั่งซื้อในอีคอมเมิร์ซ

ข้อดี:

  • ใช้งานง่ายโดยไม่ต้องเขียนโค้ด
  • รองรับแอปพลิเคชันจำนวนมาก
  • มีตัวเลือก Zap สำเร็จรูป

ข้อเสีย:

  • ข้อจำกัดในจำนวน Task บนแผนฟรี
  • การสร้าง Workflow ที่ซับซ้อนอาจใช้เวลาในการตั้งค่า

ตารางค่าใช้จ่าย:

แผน ราคา/เดือน Task/เดือน
Free $0 100
Starter $19.99 750
Professional $49.99 2,000
Team $399 ไม่จำกัด

 

2.UiPath
เครื่องมือ Robotic Process Automation (RPA) ที่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างบอทเพื่อดำเนินงานที่ทำซ้ำ ๆ ได้ เช่น การป้อนข้อมูล การจัดการไฟล์ และการประมวลผลข้อมูล ช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

คุณสมบัติ:

  • เป็นเครื่องมือ RPA (Robotic Process Automation) ที่ช่วยสร้างบอททำงานอัตโนมัติ
  • รองรับงานที่ทำซ้ำ ๆ เช่น การกรอกแบบฟอร์ม การดึงข้อมูลจากเว็บไซต์

Use Case:

  • การป้อนข้อมูลอัตโนมัติในระบบ ERP
  • การสร้างรายงานทางการเงินโดยดึงข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ
  • การประมวลผลคำร้องในแผนกบริการลูกค้า

ข้อดี:

  • รองรับงานที่ซับซ้อนในระดับองค์กร
  • ปรับแต่งกระบวนการอัตโนมัติได้สูง
  • มีฟีเจอร์ AI ช่วยในการประมวลผลข้อมูล

ข้อเสีย:

  • ใช้งานยากสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค
  • ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับองค์กรขนาดเล็ก

ตารางค่าใช้จ่าย:

แผน ราคา (ต่อเดือน) คุณสมบัติหลัก
Community Edition ฟรี สำหรับผู้เริ่มต้นและการทดลอง
Enterprise เริ่มต้นที่ $500 รองรับการใช้งานองค์กร
3.Microsoft Power Automate
บริการจาก Microsoft ที่ช่วยสร้างเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติระหว่างแอปและบริการต่าง ๆ รวมถึงการรวม AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนด เหมาะสำหรับการจัดการงานธุรกิจที่ซับซ้อน

คุณสมบัติ:

  • บริการสร้าง Workflow Automation ในตระกูล Microsoft
  • ผสานรวม AI เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลและ OCR

Use Case:

  • การอนุมัติเอกสารอัตโนมัติ
  • การดึงข้อมูลจากอีเมลเพื่อบันทึกลงใน Excel
  • การส่งแจ้งเตือนเมื่อมีอัปเดตในระบบ SharePoint

ข้อดี:

  • เชื่อมต่อได้ดีเยี่ยมกับแอปพลิเคชัน Microsoft
  • รองรับการสร้าง Workflow อัตโนมัติที่ใช้ AI
  • มีตัวเลือกสำหรับการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน

ข้อเสีย:

  • เหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Microsoft เป็นหลัก
  • อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับผู้ที่ไม่ใช้ Office 365

ตารางค่าใช้จ่าย:

แผน ราคา/เดือน คุณสมบัติ
Per User $15 การสร้าง Workflow แบบพื้นฐาน
Per Flow $500 (ต่อ 5 Workflow) สำหรับองค์กรที่ต้องการขนาดใหญ่

สรุปเปรียบเทียบ
คุณสมบัติ Zapier UiPath Microsoft Power Automate
ความง่ายในการใช้งาน ง่าย ปานกลาง-ยาก ปานกลาง
การรองรับแอปพลิเคชัน รองรับ 5,000+ แอป มุ่งเน้นองค์กร เน้นการใช้งานกับ Microsoft
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ฟรี ฟรี $15
เหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ธุรกิจขนาดใหญ่ องค์กรที่ใช้ Microsoft

ทั้งสามเครื่องมือมีจุดเด่นและเหมาะกับผู้ใช้งานที่ต่างกัน การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับความต้องการ ความเชี่ยวชาญ และงบประมาณของธุรกิจครับ! 😊

 

ทบสรุป

หนึ่งในประโยชน์สำคัญของ AI ในระบบอัตโนมัติคือ การปรับปรุงกระบวนการทำงาน (Process Optimization) เช่น การประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ การตรวจสอบคุณภาพสินค้า และการจัดการคำสั่งซื้อแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ หุ่นยนต์ซอฟต์แวร์ (RPA: Robotic Process Automation) ยังช่วยให้บริษัทสามารถจัดการงานเอกสารและงานหลังบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก

AI in Automation ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เช่น การใช้ Chatbot ที่มี AI ในการตอบคำถามและให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในระบบโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการจัดส่งสินค้า และในงานด้านสุขภาพ เช่น การจัดการข้อมูลผู้ป่วยและระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ

ในภาพรวม การใช้ AI ในงานอัตโนมัติช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด การลงทุนใน AI Automation จึงไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจยุคใหม่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *