AI in Design คือการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในกระบวนการออกแบบ เพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และปรับปรุงประสิทธิภาพของนักออกแบบ AI ช่วยลดเวลาในกระบวนการออกแบบด้วยการประมวลผลข้อมูลและสร้างตัวเลือกที่หลากหลายให้กับนักออกแบบได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การออกแบบโลโก้ ไปจนถึงการพัฒนาอินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI)
Use Case: AI Tools Design – ใช้ AI ในการออกแบบ
คุณสมบัติ:
- เป็นเครื่องมือ AI ที่เน้นสร้างภาพในสไตล์ที่แตกต่างและสมจริง
- ใช้ข้อความ (text prompt) ในการกำหนดแนวคิดภาพ
- เหมาะสำหรับงานสร้างสรรค์ภาพประกอบ ศิลปะ และการออกแบบที่แปลกใหม่
Use Case:
- การสร้างภาพประกอบสำหรับโฆษณาและงานนำเสนอ
- การออกแบบผลิตภัณฑ์และสร้างคอนเซ็ปต์ในระยะแรก
- การผลิตภาพเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น เกมและภาพยนตร์
ข้อดี:
- สร้างภาพที่มีความสมจริงและสร้างสรรค์สูง
- ลดเวลาที่ใช้ในการร่างภาพ
- ตอบโจทย์งานที่ต้องการภาพที่ไม่ซ้ำใคร
ข้อเสีย:
- ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งข้อความ (text prompt) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
- ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพภายในแพลตฟอร์ม
ตารางค่าใช้จ่าย:
แผน | ราคา/เดือน | คุณสมบัติหลัก |
---|---|---|
Basic | $10 | การสร้างภาพแบบไม่จำกัดในระดับทั่วไป |
Standard | $30 | ฟีเจอร์การใช้งานเพิ่มเติม |
Pro | $60 | ความเร็วในการประมวลผลสูงสุด |
2.Canva
แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกที่มีฟีเจอร์ AI ช่วยในการสร้างสรรค์งานออกแบบ เช่น การลบพื้นหลังอัตโนมัติ การปรับแต่งสี และการจัดวางองค์ประกอบ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
คุณสมบัติ:
- แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกแบบครบวงจร
- มีฟีเจอร์ AI เช่น การลบพื้นหลังอัตโนมัติ การแนะนำการจัดวาง และการสร้างข้อความในภาพ
- เหมาะสำหรับการออกแบบโซเชียลมีเดีย โปสเตอร์ และเอกสาร
Use Case:
- การออกแบบโพสต์โซเชียลมีเดียสำหรับการตลาด
- การสร้างเอกสารโฆษณาและสื่อส่งเสริมการขาย
- การสร้างภาพประกอบและกราฟิกแบบมืออาชีพ
ข้อดี:
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
- รองรับการทำงานร่วมกันในทีม
- มีเทมเพลตให้เลือกหลากหลาย
ข้อเสีย:
- ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างต้องใช้แผน Pro
- ตัวเลือกปรับแต่งอาจไม่ยืดหยุ่นเท่ากับซอฟต์แวร์มืออาชีพ
ตารางค่าใช้จ่าย:
แผน | ราคา/เดือน | คุณสมบัติหลัก |
---|---|---|
ฟรี | $0 | เทมเพลตและฟีเจอร์พื้นฐาน |
Pro | $12.99 | การลบพื้นหลัง, ฟีเจอร์พรีเมียม |
Teams | $30 ต่อทีม | การทำงานร่วมกันในองค์กร |
3.Adobe Sensei
เทคโนโลยี AI จาก Adobe ที่ผสานรวมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น Photoshop และ Illustrator ช่วยในการปรับปรุงภาพ การลบวัตถุ และการสร้างเอฟเฟกต์พิเศษ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของนักออกแบบ
ขอแนะนำเพิ่มเติม:
– https://brandmark.io/
– https://looka.com/
– https://designer.microsoft.com/
– https://uizard.io/autodesigner/
บทสรุป
หนึ่งในจุดเด่นของ AI ในงานออกแบบคือ การสร้างตัวเลือกอัตโนมัติ (Generative Design) ที่ช่วยนักออกแบบสร้างสรรค์งานใหม่โดยใช้ข้อมูลและพารามิเตอร์เฉพาะเจาะจง เช่น สี ขนาด หรือรูปแบบที่เหมาะสม นอกจากนี้ AI ยังช่วยในการวิเคราะห์ความเหมาะสมของการออกแบบ เช่น การจัดวางองค์ประกอบ และการเลือกโทนสีที่สอดคล้องกับความต้องการของแบรนด์
AI ยังมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงกระบวนการทำงานในทีมออกแบบ ด้วยการใช้เครื่องมือ Collaboration Tools ที่ใช้ AI เพื่อช่วยให้สมาชิกทีมสามารถแสดงความคิดเห็นและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ AI ยังช่วยสร้าง Mockups และ Prototypes ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กระบวนการพัฒนาและนำเสนอผลงานกับลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น
ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการประมวลผลแบบอัตโนมัติ AI in Design ช่วยนักออกแบบมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และงานที่ต้องการความละเอียดอ่อนมากขึ้น ส่งผลให้งานออกแบบมีคุณภาพสูงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล